ใครๆก็ทราบว่า คอลลาเจนช่วยให้ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง แต่น่าเสียดายที่คอลลาเจนลดลงตามสภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่นกาลเวลา,มลภาวะ ,การออกอาการทางความรู้สึก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอลลาเจนใต้ผิวเสื่อมสภาพ ผลที่ตามมาก็คือ ริ้วรอยเหี่ยวย่น และผิวหนังขาดความชุ่มชื้น
คอลลาเจนมาจากภาษากรีก แปลว่ากาว เป็นโปรตีนธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะในสัตว์และมนุษย์ collagenทำหน้าที่เชื่อมเซลแต่ละเซลเข้าด้วยกัน เป็นองค์ประกอบหลักในร่างกายเรา เพราะมีปริมากถึง 1ใน 3 ของโปรตีนในร่างกายเรา พบได้โดยทั่วไปของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กล้ามเนื้อ เอ็นข้อต่อและกระดูก เส้นใยคอลลาเจนจะเป็นโครงสร้างที่เซลล์ใหม่ๆสามารถเจริญเติบโตได้
คอลลาเจนในผิวหนังมนุษย์มีลักษณะเหมือนกับคอลลาเจนที่พบในสัตว์ จึงเป็นเหตุผลที่มนุษย์สามารถใช้คอลลาเจนจากสัตว์ได้
คอลลาเจนกับผิวพรรณ
ผิวของเราจัดเป็นอวัยวะที่ทรงพลังของร่างกาย ลักษณะผิวเป็นตัวบ่งชี้หลักของอายุคน ..อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวเริ่มมีการเสื่อมสภาพ กระบวนการทำงานต่างๆ ของผิวหนังและกระบวนการเผาผลาญน้อยลง การสร้างผิวใหม่ก็ช้าลง ปริมาณคอลลาเจนและอีลาสตินก็ลดลง ทำให้เกิดภาวะแก่ก่อนวัย สภาพสีผิวที่เปลี่ยนแปลงและเกิดริ้วรอย รวมทั้งความตึงกระชับลดลง
โดยเฉลี่ยเมื่ออายุเกิน 25 ปีมนุษย์จะสูญเสียคอลลาเจนไปโดยเฉลี่ย 1.25 – 1.50 %ต่อปี
และอาจเพิ่มอัตราการสูญเสียคอลลาเจน เมื่อหลังวัย 40 หรือต้องพบกับมลภาวะ ฝุ่น แสงแดด และอื่นๆอีกมากมาย การจะคงสภาพของผิวให้อ่อนเยาว์อยู่นานๆนั้น ต้องเติมคอลลาเจนคืนสู่ร่างกายและผิว ซึ่งประโยชน์ของคอลลาเจน ที่นอกจากจะช่วยปรับสภาพผิว ช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวแล้ว ยังได้การบำรุง “ข้อต่อ”ในทุกส่วนของร่างกาย เล็บแข็งแรง ผมดูเงางามมีชีวิตชีวา ขึ้น
คอลลาเจนจะทำงานคู่กับ อิลาสติน(Elastin)ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงสร้างใหญ่ของผิว อิลาสติน ก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวคู่กันด้วย คอลลาเจนจึงเป็นหัวใจสำคัญที่คงความยืดหยุ่น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ไม่ให้สูญเสียไปกับสภาพแวดล้อม
คอลลาเจนกับเอ็นและข้อต่อ
ส่วนประกอบประมาณ 80 % ของเอ็น (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกกับกระดูก) และเส้นเอ็น (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกและกล้ามเนื้อ) คือคอลลาเจน ที่เหลือคือ proteoglucans และ fibroblasts
ความเสื่อมของข้อเข่า มีสาเหตุมาจากกระดูกอ่อนในข้อต่อหัวเข่าหมดไป ทำให้กระดูก 2 ชิ้นมาเสียดสีกัน จึงทำให้เกิดการเจ็บปวดในบริเวณนั้น คอลลาเจน เข้ามาช่วยลดการการเสียดสี และสร้างกระดูกอ่อนบริเวณเข่าขึ้นมาใหม่ กรดอะมิโนในคอลลาเจนไฮโดรไลเสท จะถูกนำมาสร้างเป็นกระดูกอ่อน ทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงและข้อต่อที่ยืดหยุ่น
เพิ่มคอลลาเจนด้วยอาหาร
นอกจากการเสริมคอลลาเจนในรูปแบบวิตามินแล้ว ในอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน เช่น เบต้าแคโรทีนจากแคอท อาหารที่มีวิตามินอี และวิตามินซีจากผักและผลไม้ มีส่วนช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างคอลลาเจน
สิ่งที่ได้จากการเสริมคอลลาเจน
คอลลาเจนมาจากภาษากรีก แปลว่ากาว เป็นโปรตีนธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะในสัตว์และมนุษย์ collagenทำหน้าที่เชื่อมเซลแต่ละเซลเข้าด้วยกัน เป็นองค์ประกอบหลักในร่างกายเรา เพราะมีปริมากถึง 1ใน 3 ของโปรตีนในร่างกายเรา พบได้โดยทั่วไปของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กล้ามเนื้อ เอ็นข้อต่อและกระดูก เส้นใยคอลลาเจนจะเป็นโครงสร้างที่เซลล์ใหม่ๆสามารถเจริญเติบโตได้
คอลลาเจนในผิวหนังมนุษย์มีลักษณะเหมือนกับคอลลาเจนที่พบในสัตว์ จึงเป็นเหตุผลที่มนุษย์สามารถใช้คอลลาเจนจากสัตว์ได้
คอลลาเจนกับผิวพรรณ
ผิวของเราจัดเป็นอวัยวะที่ทรงพลังของร่างกาย ลักษณะผิวเป็นตัวบ่งชี้หลักของอายุคน ..อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวเริ่มมีการเสื่อมสภาพ กระบวนการทำงานต่างๆ ของผิวหนังและกระบวนการเผาผลาญน้อยลง การสร้างผิวใหม่ก็ช้าลง ปริมาณคอลลาเจนและอีลาสตินก็ลดลง ทำให้เกิดภาวะแก่ก่อนวัย สภาพสีผิวที่เปลี่ยนแปลงและเกิดริ้วรอย รวมทั้งความตึงกระชับลดลง
โดยเฉลี่ยเมื่ออายุเกิน 25 ปีมนุษย์จะสูญเสียคอลลาเจนไปโดยเฉลี่ย 1.25 – 1.50 %ต่อปี
และอาจเพิ่มอัตราการสูญเสียคอลลาเจน เมื่อหลังวัย 40 หรือต้องพบกับมลภาวะ ฝุ่น แสงแดด และอื่นๆอีกมากมาย การจะคงสภาพของผิวให้อ่อนเยาว์อยู่นานๆนั้น ต้องเติมคอลลาเจนคืนสู่ร่างกายและผิว ซึ่งประโยชน์ของคอลลาเจน ที่นอกจากจะช่วยปรับสภาพผิว ช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวแล้ว ยังได้การบำรุง “ข้อต่อ”ในทุกส่วนของร่างกาย เล็บแข็งแรง ผมดูเงางามมีชีวิตชีวา ขึ้น
คอลลาเจนจะทำงานคู่กับ อิลาสติน(Elastin)ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงสร้างใหญ่ของผิว อิลาสติน ก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวคู่กันด้วย คอลลาเจนจึงเป็นหัวใจสำคัญที่คงความยืดหยุ่น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ไม่ให้สูญเสียไปกับสภาพแวดล้อม
คอลลาเจนกับเอ็นและข้อต่อ
ส่วนประกอบประมาณ 80 % ของเอ็น (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกกับกระดูก) และเส้นเอ็น (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกและกล้ามเนื้อ) คือคอลลาเจน ที่เหลือคือ proteoglucans และ fibroblasts
ความเสื่อมของข้อเข่า มีสาเหตุมาจากกระดูกอ่อนในข้อต่อหัวเข่าหมดไป ทำให้กระดูก 2 ชิ้นมาเสียดสีกัน จึงทำให้เกิดการเจ็บปวดในบริเวณนั้น คอลลาเจน เข้ามาช่วยลดการการเสียดสี และสร้างกระดูกอ่อนบริเวณเข่าขึ้นมาใหม่ กรดอะมิโนในคอลลาเจนไฮโดรไลเสท จะถูกนำมาสร้างเป็นกระดูกอ่อน ทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงและข้อต่อที่ยืดหยุ่น
เพิ่มคอลลาเจนด้วยอาหาร
นอกจากการเสริมคอลลาเจนในรูปแบบวิตามินแล้ว ในอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสติน เช่น เบต้าแคโรทีนจากแคอท อาหารที่มีวิตามินอี และวิตามินซีจากผักและผลไม้ มีส่วนช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างคอลลาเจน
สิ่งที่ได้จากการเสริมคอลลาเจน
1. ลดเลือนริ้วรอย เหี่ยวย่น ฝ้า กระ จางลงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนวัย
2. ผมและเล็บมีสุขภาพดีขึ้น
2. ผมและเล็บมีสุขภาพดีขึ้น
3. ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอใส รูขุมขนดูเล็กลง เสริมความอิ่ม เรียบตึงให้ผิวหนัง
4. ช่วยสร้างกระดูกอ่อนที่ข้อ ลดการบาดเจ็บจากอาการข้อเข่าเสื่อม
4. ช่วยสร้างกระดูกอ่อนที่ข้อ ลดการบาดเจ็บจากอาการข้อเข่าเสื่อม
5.ช่วยป้องกันอวัยวะต่างๆในร่างกาย ทำงานเหมือนตัวเชื่อมต่างๆของร่างกายด้วยกัน ทำให้ร่างกายยืดหยุ่น ขยับไปมาได้สะดวก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น